เข้าสู่โหมด5เกมโหดทดสอบลิเวอร์พูล

คืนนี้ลิเวอร์พูลจะเริ่มเข้าสู่โปรแกรมโหดเอาเรื่องเวสต์แฮม ยูไนเต็ด - อตาลันต้า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - เลสเตอร์ ซิตี้ - อตาลันต้า เกมไหนเหย้าหรือเยือนสำหรับฟุตบอลยุคโควิด-19 แทบจะเรียกว่าไม่มีความแตกต่าง อย่างที่เราเห็นๆ กันมาตั้งแต่ตอนที่ฟุตบอลกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งนั่นแหละครับ เปอร์เซนต์ชนะของทีมใหญ่ที่เคยมีมากกว่าก็ลดลง เปอร์เซนต์แพ้ของเจ้าบ้านที่เคยมีน้อยก็กลับเยอะขึ้น 

ถ้ายังไม่ชินอีกสักพักก็คงจะชิน เรากำลังอยู่ในยุคที่ฟุตบอลมีความบิดเบี้ยวพอสมควร การไม่มีแฟนบอลในสนามส่งผลกระทบมากจริงๆ ไม่เพียงเรื่องสภาวะการเงินของสโมสรหากยังเป็นการแข่งขันในสนามและผลที่ออกมาด้วยมันคงขึ้นอยู่กับว่าทีมใหญ่ทีมไหนจะปรับตัวเข้ากับบรรยากาศฟุตบอลแบบนี้ได้เร็วกว่ากัน ดูบอล เท่าที่เห็นก็เหมือนจะมีเพียง บาเยิร์น มิวนิค เจ้าเดียวกระมังที่โควิด-19 ทำอะไรพวกเขาไม่ค่อยได้ต่อให้มีเกมแพ้ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-4 เกิดขึ้นก็เถอะเพราะภาพรวมพลพรรคเสือใต้ยังเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่นอยู่ดี สำหรับลิเวอร์พูล เดอะค็อปต้องเผชิญหน้ากับความกังวลต่อเนื่อง ไล่กันมาตั้งแต่ผลงานช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วที่บางคนวิตกว่าฟอร์มเริ่มแผ่ว เปอร์เซนต์ชนะเริ่มน้อยลง กลัวว่าคู่แข่งจะจับทางได้ กลัวว่านักเตะจะหมดความกระหาย ไปจนกระทั่งกลัวว่าทีมจะไม่ซื้อใครเพิ่ม 

ก่อนที่จะสบายใจขึ้นบ้างเมื่อดีล ตีอาโก้ อัลกันตาร่า เกิดขึ้นจริงๆ แถมยังพ่วง

ดีโอโก้ โชต้า เข้ามาอีกคน กระนั้นความกังวลก็ยังคงสัมผัสได้อยู่ดีกับการไม่ซื้อกองหลังตัวกลางเพิ่ม และเมื่อ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เจ็บขึ้นมาจริงๆ อย่างที่กลัวความระส่ำระส่ายและไม่มั่นใจจึงกลับมาอีกครั้ง ในบางช่วงชีวิตคนเรานั้นก็เหมือนถูกแกล้งนะครับ ฟาน ไดค์ เจ็บทั้งฤดูกาลไม่ทันไร ฟาบินโญ่ที่ถอยลงมาเล่นกองหลังจำเป็นก็เจ็บเพิ่มไปอีกคน 

ยังไม่รวม โฌแอล มาติป ที่เจ็บออดๆ แอดๆ อยู่ก่อนแล้วทำให้จากที่เคยมีกองหลังตัวกลาง 4 คนพร้อมตัวเสริมยามจำเป็น ฟาน ไดค์ - โจ โกเมซ - มาติป - เดยัน ลอฟเรน - ฟาบินโญ่ ที่ไม่มีปัญหาใดๆ รบกวนเลยเมื่อซีซั่นก่อน หงส์แดงกลับเหลือกองหลังในทีมชุดใหญ่ที่สมบูรณ์ดีเพียงคนเดียวเท่านั้นในเวลานี้คือโกเมซ ความวิตกกลับมาอีกครั้ง บางคนคิดไปไกลกว่านั้นถึงขั้นตัดสินอนาคตของทีมไปเรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำ  เรื่องนี้ที่จริงก็เป็นความคิดใครความคิดมันอีกนั่นแหละ ทุกคนมีสิทธิ์คิดและแสดงความเห็นอยู่แล้ว แต่ถ้าจะลองดูรายละเอียดของการแข่งขันนับตั้งแต่ที่ ฟาน ไดค์ เจ็บตอนต้นเกมกับเอฟเวอร์ตันและทีมเสีย 2 ประตูที่กูดิสัน พาร์ค ลิเวอร์พูลก็ไม่เสียประตูในลักษณะโอเพ่นเพลย์ให้คู่แข่งเลย สามเกมแล้วนะครับที่เป็นแบบนั้น ชนะอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 ชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 ที่ทีมดาบคู่ได้ประตูจากจุดโทษ 
และเกมล่าสุดชนะมิดทิลลันด์ 2-0 คน

ที่ยังกังวลก็จะมองหาจุดที่ชวนให้กังวลอยู่ดี ด้วยความเป็นห่วงทีมก็จะมีการมองว่าทั้งอาแจ๊กซ์ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ มิดทิลลันด์ ต่างก็สร้างโอกาสทำประตูได้เหมือนกันทว่ายิงทิ้งยิงขว้างไปเองหรือติดการป้องกันของ อลีสซง เบ็คเกอร์ หมด ไม่อย่างนั้นทีมก็เสียประตูไปแล้ว ก็อย่างที่บอกว่ามันแล้วแต่มุมมองนั่นล่ะครับ