มาห์เรซ แข้ง แมนฯ ซิตี้ ซูฮก ลิเวอร์พูล

 

ริยาด มาห์เรซ แข้ง แมนฯ ซิตี้ ซูฮก ลิเวอร์พูล ว่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมทีมหนึ่ง แถมพูดแบบเอาฮาว่า "หงส์แดง" 

น่าจะเกลียดพวกตนไปแล้วเพราะถ้าไม่ใช่เพราะ "เรือใบสีฟ้า" แล้วล่ะก็ ลิเวอร์พูล ก็น่าจะกวาดแชมป์ได้ตลอด พร้อมบอกว่าซีซั่นหน้า แมนฯ ซิตี้ จะยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบนี้แน่ริยาด มาห์เรซ แนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก

 อังกฤษ พูดแบบติดตลกว่า ลิเวอร์พูล คงจะเกลียดทีมของตนสุดๆ หลังจากที่ "เรือใบสีฟ้า" คอยขัดขวางความสำเร็จของ "หงส์แดง" หลายครั้งตลอดช่วงที่ผ่านมา  แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่าถือเป็นคู่แข่งเบอร์ 1 ของวงการฟุตบอลอังกฤษในพักหลัง  จากการที่ทั้งคู่ต่างก็มักจะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเกือบจะตลอดเวลาและขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กันสูสีในหลายรายการ อย่างฤดูกาลนี้พวกเขาก็เบียดลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันจนถึงนัดสุดท้าย ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะชนะไปเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น  ดูบอล กระชับมิตร  ดาวเตะชาวแอลจีเรียเผยกับ กานาล ปลุส สื่อชื่อก้องว่า "ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เพี้ยน พวกเขาเป็นทีมที่สุดยอด แต่ผมรู้ดีว่าพวกเขาเกลียดเราเข้าไส้ พวกเขาเบื่อเราเพราะถ้าไม่มีเราแล้วล่ะก็พวกเขาก็คงจะได้แชมป์ทุกรายการในทุกซีซั่นแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงเราอยู่ที่นี่ เราไม่เคยปล่อยให้อะไรหลุดมือ และฤดูกาลหน้าเราก็จะยังอยู่ในจุดนี้แน่นอน"



เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" ให้ จอห์น สโตนส์ ยืนแบ็กขวา 

และใช้ ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น และ ราฮีม สเตอร์ลิม เป็นสามประสานในแนวรุก ขณะที่ โธมัส แฟร้งค์ นายใหญ่ทัพ "เดอะ บีส์" วาง เซร์กี้ กานอส และ ซามาน ก็อดดอส เป็นคู่กองหน้า  

ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เป็น แมนฯ ซิตี้ ครองบอลบุกได้มากกว่าตามฟอร์ม แต่ยังไม่มีโอกาสลุ้นจบสกอร์แบบจะๆ ขณะที่แนวรับ เบรนท์ฟอร์ด ก็ช่วยกันป้องกันได้ดีนาทีที่ 33 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้น เมื่อ สเตอร์ลิง ได้ทิ้งตัววอลเล่ย์โล่งๆ แต่บอลลอยข้ามคานออกหลังไป โอกาสของ "เรือใบสีฟ้า" เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยนาทีที่ 35 เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบไปนิดเดียวนาทีที่ 40 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากการสังหารลูกจุดโทษเข้าไปอย่างเฉียบขาดของ มาห์เรซ หลังจากที่ สเตอร์ลิง ถูก แมดส์ โรเออร์สเลฟ ทำฟาวล์นาทีที่ 43 เบรนท์ฟอร์ด มีโอกาสทองที่จะตีเสมอ ซึ่งมาจากความผิดพลาดของ จอห์น สโตนส์ กองหลังเจ้าถิ่น ทว่า ริโก้ เฮนรี่ ที่ได้หลุดเข้าไปยิง กลับซัดบอลติดเซฟของ เอแดร์ซอน อย่างน่าเสียดาย  จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เบรนท์ฟอร์ด 1-0      นาทีที่ 50 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะส่องไกลของ ชูเอา กานเชโล่ ที่ซัดบอลพุ่งข้ามคานแบบได้ลุ้น และอีก 5 นาทีต่อมา กานเชโล่ คนเดิม พาบอลลุยเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดบอลไปตรงตัว ดาบิด ราย่า นายทวารทีมเยือน 

นาทีที่ 69 "เรือใบสีฟ้า" หนีเป็น 2-0 สมใจอยาก จากความผิดพลาดของ ราย่า ที่เปิดบอลไม่ดี ซึ่งตอนแรกดูเหมือนเจ้าตัวแก้ตัวได้ เพราะสามารถเซฟลูกยิงของ สเตอร์ลิง ทว่า เควิน เดอ บรอยน์ ตามซ้ำจังหวะสอง บอลพุ่งเบียดเสาอย่างเด็ดขาด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กองกลางอตาลันต้า Andrea Rinaldi เสียชีวิตเมื่ออายุ 19 ปี

Foxes ใกล้บรรลุข้อตกลงกับ Lille

ตะวันฉายกระชากแชมป์โลกมวยวัน ชนะคะแนนเพชรมรกตเมื่อครบ 5 ยก